พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘
เพื่อให้เป็นไปตามกฏหมายดังกล่าว สมาชิกทุกท่านต้องอ่านทำความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด
เข้าสู่ระบบ
หน้าแรก
เก้าสิบเก้าวัด
ร้านพระเครื่อง
กระดานสนทนา
สมัครสมาชิก
ติดต่อทีมงาน
ค้นหาข้อมูล
เข้าสู่ระบบ
พระฝักไม้ขาว ก...
พระฝักไม้ขาว กรุวัดสุนทรประดิษฐ์ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก
พระฝักไม้ขาว กรุวัดสุนทรประดิษฐ์ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก
ขนาดโดยประมาณ กว้าง 2 ซ.ม. สูง 3 ซ.ม.
"พระกรุบางระกำ" กำเนิดในยุคสมัยที่ พระครูพุทธิสุนทร (หรุ่น ติสฺสโร) เป็นเจ้าอาวาสวัดสุนทรประดิษฐ์ หรือ วัดบางระกำ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก โดยพระภิกษุรูปหนึ่งชื่อ พระอาจารย์ถีร์ ซึ่งจำพรรษาอยู่ที่วัดละครทำ ธนบุรี ได้ล่องเรือตามลำคลองมายังตลาดบางระกำ พร้อมกับพระพิมพ์บรรจุในไห จุดมุ่งหมายเพื่อนำไปมอบให้หลวงพ่อขำ วัดฝักไม้ดำ (โพธิ์เตี้ย) อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร แต่แล้วด้วยมีอุปสรรคในการคมนาคม จึงแวะที่ตลาดบางระกำ แล้วฝากพระในไหไว้ที่บ้าน นายอู่ไช้ แซ่ลิ้ม คหบดีในตลาดบางระกำ
เมื่อวันเวลาได้ผ่านไปแรมปี ต่อมานายอู่ไช้ได้ขายบ้านหลังดังกล่าวนั้นให้กับนายละม่อม และนางกิมเอ็ง เนตรแก้ว โดยไม่ได้มีการเคลื่อนย้ายพระในไหแต่อย่างใด คงไว้ดังเดิม เจ้าของบ้านคนใหม่พบเห็นเข้า จึงนำพระไปไว้ในโบสถ์วัดบางระกำ โดยวางไว้ด้านหลังหลวงพ่อนฤมิต พระประธานในอุโบสถ อีกทางหนึ่งก็ว่า นายอู่ไช้เป็นผู้เคลื่อนย้ายพระในไหจากบ้านมายังโบสถ์ดังกล่าวด้วยตนเอง
หลัง พ.ศ.๒๔๘๕ ได้เกิดอุทกภัยน้ำท่วมใหญ่หลายจังหวัด รวมทั้ง จ.พิษณุโลก ด้วย วัดสุนทรประดิษฐ์ ซึ่งอยู่ในที่ลุ่มและริมฝั่งแม่น้ำยม ก็ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยดังกล่าวนี้ด้วย น้ำได้ไหลบ่าเข้าไปในโบสถ์ พระพิมพ์ที่ซุกซ่อนอยู่หลังพระประธานจมอยู่ในน้ำเป็นเวลานาน เมื่อน้ำลดจึงมีคราบตะกอนดินติดอยู่ที่ผิวพระ จนบางท่านเข้าใจว่าเป็นพระกรุ หรือบางท่านเข้าใจถูกแล้วแต่ด้วยธรรมชาติขององค์พระเฉกเช่นเดียวกับพระกรุ จึงเรียกเช่นนั้นต่อๆกันมา
สมัยนั้นทางวัดมิได้สนใจกับพระพิมพ์ดังกล่าวนี้เลย ใครจะหยิบฉวยไปอย่างไร จำนวนเท่าไร ก็ไม่ว่า โดยเฉพาะเด็กวัดหยิบเอามาเล่นทอยกองกันอย่างสนุกสนาน จนในที่สุดพระก็ไม่มีเหลืออยู่เลย
พระพิมพ์จากวัดบางระกำ หรือวัดสุนทรประดิษฐ์ มี ๒ แบบ คือ พระพิมพ์สิงห์ป้อนเหยื่อ และพิมพ์สมเด็จฝักไม้ดำ-ฝักไม้ขาว
พระฝักไม้ขาว มีพุทธคุณเด่นทางมหาอุด และคงกระพันชาตรี เคยมีเรื่องเล่าลือกันว่า สมัยก่อนบรรดาจอมพลต่างแขวนห้อยคอกันแทบทั้งนั้น รวมทั้งสั่งให้ลูกน้องเสาะหามาใช้เช่นเดียวกับพระร่วงหลังรางปืน และน่าจะด้วยเหตุผลนี้นี่เอง จึงทำให้พระพิมพ์กรุบางระกำกลายเป็นตำนานหนึ่งของพระเครื่องเมืองไทยไปแล้วในขณะนี้
อีกตำนานหนึ่งกล่าวว่า
สมัยท่านเจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ได้สร้างพระเจดีย์ ๒ องค์ ไว้ที่ วัดละครทำ ต.ช่างหล่อ ธนบุรี (อยู่ใกล้วัดระฆัง) เพื่อบรรจุพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ และท่านได้สร้างพระพิมพ์บรรจุไว้ด้วย
โดยพระพิมพ์ที่ท่านสร้างไว้นั้น ได้ซ่อนปริศนาธรรมเอาไว้ (พระพิมพ์สิงห์ป้อนเหยื่อ) กาลเวลาต่อมาพระเจดีย์องค์หนึ่งได้พังทลายลง พระอาจารย์ถีร์ได้นำพระพิมพ์ที่แตกกรุออกมาจากพระเจดีย์บรรจุลังไม้เก็บไว้ และนำอิฐจากพระเจดีย์มาปูทางเดินในวัด
ต่อมาพระอาจารย์ถีร์ ต้องการนำพระพิมพ์มามอบให้ หลวงพ่อขำ ที่วัดปรักไม้ดำ (วัดโพธิ์เตี้ย) ต.ลานกระบือ อ.พาน จ.กำแพงเพชร (จึงน่าจะเป็นที่มาของชื่อ พระฝักไม้ดำและพระฝักไม้ขาว) เพื่อบรรจุไว้ในพระเจดีย์ที่หลวงพ่อขำได้สร้างไว้หน้าโบสถ์ ๒ องค์
แต่ระหว่างทาง แถวพิษณุโลก เรือเกิดเสีย จึงนำพระพิมพ์ทั้งหมดขึ้นฝากไว้ที่บ้าน นายอู๋ใช้ แซ่ลิ้ม ที่ อ.บางระกำ จากนั้นพระอาจารย์ถีร์ได้เดินทางกลับ โดยไม่ได้กลับไปหานายอู๋ใช้อีกเลย
ต่อมานายอู๋ใช้ได้ขายบ้านหลังนั้นให้คนอื่นไป และเจ้าของบ้านคนต่อมาได้นำพระพิมพ์ทั้งหมดมามอบให้วัดบางระกำ ในสมัยหลวงพ่อหรุ่นเป็นเจ้าอาวาส พระพิมพ์บางระกำเริ่มเป็นที่รู้จักกัน ตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๔๘๖ เป็นต้นมา
พระพิมพ์สิงห์ป้อนเหยื่อ กรุบางระกำ มีขนาดกว้างประมาณ ๓ ซ.ม. สูงประมาณ ๔.๕ ซ.ม. ด้านหน้าเป็นพระปางลีลาหันพักตร์ไปทางซ้าย เดิมชาวบ้านจะเรียกกันว่า “ฝักไม้ดำ” ลักษณะเป็นพระพิมพ์ใหญ่ เนื้อผง มีหลายสี ทั้งสีดำ น้ำตาล ขาว เขียว
ด้านหน้าเป็นพระประธานแสดงปางลีลา ล้อมรอบด้วยอักขระอ่านว่า “นะ มะ พะ ทะ” ด้านหลังด้านบนมีอักขระอ่านว่า “มะ อะ อุ” ตอนกลางมีพระประทับนั่ง ๓ องค์ ปางสมาธิ ปางมารวิชัย และปางนั่งพนมมือ ถัดมามีอักขระอ่านว่า “นะ ปะ ทะ อะ ระ หัง” ล่างสุดเป็นรูปสิงห์ป้อนเหยื่อให้เสือ อันเป็นที่มาของฉายา "สิงห์ป้อนเหยื่อ"
พุทธคุณ เจริญรุ่งเรือง เมตตามหานิยม แคล้วคลาด คงกระพันชาตรี แม้ราชสีห์ที่ว่าโหดร้าย ยังศิโรราบต่อเมตตาธรรม ยอมป้อนเหยื่อให้กับเสือที่เป็นศัตรูกัน จึงนับว่าเป็นที่แสวงหาของนักนิยมพระเครื่องเป็นอย่างมาก
ซึ่งท่าน จอมพล ป.พิบูลสงคราม ยังนำพระสิงค์ป้อนเหยื่อ มาบรรจุตลับทองฝังเพชรและอาราธนาติดตัวตลอด และในสมัยก่อนนั้นเหล่าบรรดานายทหารต่างแขวนขึ้นคอกันแทบทั้งนั้น รวมทั้งสั่งให้ลูกน้องเสาะหามาแขวนห้อยติดตัวไว้ เช่นเดียวกับพระร่วงหลังรางปืน
และน่าจะเป็นเหตุผลนี้นี่เอง จึงทำให้พระพิมพ์กรุบางระกำหลุดเข้าสู่สนามพระน้อยเต็มที จนแทบจะกลายเป็นตำนานหนึ่งของพระเครื่องเมืองไทย.
ผู้เข้าชม
53 ครั้ง
ราคา
38,000
สถานะ
ยังอยู่
โดย
varavet
ชื่อร้าน
วาสนา พระเครื่อง
ร้านค้า
varavet.99wat.com
โทรศัพท์
0894611699
ไอดีไลน์
0894611699
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
1. ธนาคารไทยพาณิชย์ / 845-2-12340-2
เหรียญกรมหลวงชุมพรฯ อายุครบ 10
เหรียญเจ้าอธิการญัติ วัดสายไหม
พระนางพญา ลป-ทิม ออกวัดบ่อวิน
ล็อคเก็ตพระพุทธชินราชหลวงปู่หม
พระประจำวันจันทร์ พิธี 25 ศตวร
ลป-ทวด/พระ อ-นอง มงคล 5 ปี 254
พระร่วงยุทธหัตถี พิธีใหญ่ ปี 2
พระสมเด็จ ลพ-อุ้น วัดตาลกง จ-เ
พระประจำวันพฤหัส พิธี 25 ศตวรร
เก้าสิบเก้าวัด
ร้านพระเครื่อง
กระดานสนทนา
ลงพระฟรี
สมัครสมาชิก
ติดต่อทีมงาน
ลืมรหัสผ่าน
ผู้เข้าใช้งานล่าสุด
สายป่าพระเครื่อง
ว.ศิลป์สยาม
ponsrithong2
Chobdoysata
aithanya
someman
ส่องพระเครื่อง789
Pongpasin
poop2015
NongBoss
tangmo
โกหมู
bruceAmulets
จิหล่อบ้านไผ่
พีพีพระเครื่อง
เทพจิระ
เปียโน
somphop
sadao
ยอด วัดโพธิ์
varavet
กรัญระยอง
นานา
เจริญสุข
Nithiporn
parm121212
ชาวานิช
ชา วานิช
เจนพระเครือง
ปลั๊ก ปทุมธานี
ผู้เข้าชมขณะนี้ 534 คน
เพิ่มข้อมูล
พระฝักไม้ขาว กรุวัดสุนทรประดิษฐ์ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก
ส่งข้อความ
ชื่อพระเครื่อง
พระฝักไม้ขาว กรุวัดสุนทรประดิษฐ์ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก
รายละเอียด
พระฝักไม้ขาว กรุวัดสุนทรประดิษฐ์ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก
ขนาดโดยประมาณ กว้าง 2 ซ.ม. สูง 3 ซ.ม.
"พระกรุบางระกำ" กำเนิดในยุคสมัยที่ พระครูพุทธิสุนทร (หรุ่น ติสฺสโร) เป็นเจ้าอาวาสวัดสุนทรประดิษฐ์ หรือ วัดบางระกำ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก โดยพระภิกษุรูปหนึ่งชื่อ พระอาจารย์ถีร์ ซึ่งจำพรรษาอยู่ที่วัดละครทำ ธนบุรี ได้ล่องเรือตามลำคลองมายังตลาดบางระกำ พร้อมกับพระพิมพ์บรรจุในไห จุดมุ่งหมายเพื่อนำไปมอบให้หลวงพ่อขำ วัดฝักไม้ดำ (โพธิ์เตี้ย) อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร แต่แล้วด้วยมีอุปสรรคในการคมนาคม จึงแวะที่ตลาดบางระกำ แล้วฝากพระในไหไว้ที่บ้าน นายอู่ไช้ แซ่ลิ้ม คหบดีในตลาดบางระกำ
เมื่อวันเวลาได้ผ่านไปแรมปี ต่อมานายอู่ไช้ได้ขายบ้านหลังดังกล่าวนั้นให้กับนายละม่อม และนางกิมเอ็ง เนตรแก้ว โดยไม่ได้มีการเคลื่อนย้ายพระในไหแต่อย่างใด คงไว้ดังเดิม เจ้าของบ้านคนใหม่พบเห็นเข้า จึงนำพระไปไว้ในโบสถ์วัดบางระกำ โดยวางไว้ด้านหลังหลวงพ่อนฤมิต พระประธานในอุโบสถ อีกทางหนึ่งก็ว่า นายอู่ไช้เป็นผู้เคลื่อนย้ายพระในไหจากบ้านมายังโบสถ์ดังกล่าวด้วยตนเอง
หลัง พ.ศ.๒๔๘๕ ได้เกิดอุทกภัยน้ำท่วมใหญ่หลายจังหวัด รวมทั้ง จ.พิษณุโลก ด้วย วัดสุนทรประดิษฐ์ ซึ่งอยู่ในที่ลุ่มและริมฝั่งแม่น้ำยม ก็ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยดังกล่าวนี้ด้วย น้ำได้ไหลบ่าเข้าไปในโบสถ์ พระพิมพ์ที่ซุกซ่อนอยู่หลังพระประธานจมอยู่ในน้ำเป็นเวลานาน เมื่อน้ำลดจึงมีคราบตะกอนดินติดอยู่ที่ผิวพระ จนบางท่านเข้าใจว่าเป็นพระกรุ หรือบางท่านเข้าใจถูกแล้วแต่ด้วยธรรมชาติขององค์พระเฉกเช่นเดียวกับพระกรุ จึงเรียกเช่นนั้นต่อๆกันมา
สมัยนั้นทางวัดมิได้สนใจกับพระพิมพ์ดังกล่าวนี้เลย ใครจะหยิบฉวยไปอย่างไร จำนวนเท่าไร ก็ไม่ว่า โดยเฉพาะเด็กวัดหยิบเอามาเล่นทอยกองกันอย่างสนุกสนาน จนในที่สุดพระก็ไม่มีเหลืออยู่เลย
พระพิมพ์จากวัดบางระกำ หรือวัดสุนทรประดิษฐ์ มี ๒ แบบ คือ พระพิมพ์สิงห์ป้อนเหยื่อ และพิมพ์สมเด็จฝักไม้ดำ-ฝักไม้ขาว
พระฝักไม้ขาว มีพุทธคุณเด่นทางมหาอุด และคงกระพันชาตรี เคยมีเรื่องเล่าลือกันว่า สมัยก่อนบรรดาจอมพลต่างแขวนห้อยคอกันแทบทั้งนั้น รวมทั้งสั่งให้ลูกน้องเสาะหามาใช้เช่นเดียวกับพระร่วงหลังรางปืน และน่าจะด้วยเหตุผลนี้นี่เอง จึงทำให้พระพิมพ์กรุบางระกำกลายเป็นตำนานหนึ่งของพระเครื่องเมืองไทยไปแล้วในขณะนี้
อีกตำนานหนึ่งกล่าวว่า
สมัยท่านเจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ได้สร้างพระเจดีย์ ๒ องค์ ไว้ที่ วัดละครทำ ต.ช่างหล่อ ธนบุรี (อยู่ใกล้วัดระฆัง) เพื่อบรรจุพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ และท่านได้สร้างพระพิมพ์บรรจุไว้ด้วย
โดยพระพิมพ์ที่ท่านสร้างไว้นั้น ได้ซ่อนปริศนาธรรมเอาไว้ (พระพิมพ์สิงห์ป้อนเหยื่อ) กาลเวลาต่อมาพระเจดีย์องค์หนึ่งได้พังทลายลง พระอาจารย์ถีร์ได้นำพระพิมพ์ที่แตกกรุออกมาจากพระเจดีย์บรรจุลังไม้เก็บไว้ และนำอิฐจากพระเจดีย์มาปูทางเดินในวัด
ต่อมาพระอาจารย์ถีร์ ต้องการนำพระพิมพ์มามอบให้ หลวงพ่อขำ ที่วัดปรักไม้ดำ (วัดโพธิ์เตี้ย) ต.ลานกระบือ อ.พาน จ.กำแพงเพชร (จึงน่าจะเป็นที่มาของชื่อ พระฝักไม้ดำและพระฝักไม้ขาว) เพื่อบรรจุไว้ในพระเจดีย์ที่หลวงพ่อขำได้สร้างไว้หน้าโบสถ์ ๒ องค์
แต่ระหว่างทาง แถวพิษณุโลก เรือเกิดเสีย จึงนำพระพิมพ์ทั้งหมดขึ้นฝากไว้ที่บ้าน นายอู๋ใช้ แซ่ลิ้ม ที่ อ.บางระกำ จากนั้นพระอาจารย์ถีร์ได้เดินทางกลับ โดยไม่ได้กลับไปหานายอู๋ใช้อีกเลย
ต่อมานายอู๋ใช้ได้ขายบ้านหลังนั้นให้คนอื่นไป และเจ้าของบ้านคนต่อมาได้นำพระพิมพ์ทั้งหมดมามอบให้วัดบางระกำ ในสมัยหลวงพ่อหรุ่นเป็นเจ้าอาวาส พระพิมพ์บางระกำเริ่มเป็นที่รู้จักกัน ตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๔๘๖ เป็นต้นมา
พระพิมพ์สิงห์ป้อนเหยื่อ กรุบางระกำ มีขนาดกว้างประมาณ ๓ ซ.ม. สูงประมาณ ๔.๕ ซ.ม. ด้านหน้าเป็นพระปางลีลาหันพักตร์ไปทางซ้าย เดิมชาวบ้านจะเรียกกันว่า “ฝักไม้ดำ” ลักษณะเป็นพระพิมพ์ใหญ่ เนื้อผง มีหลายสี ทั้งสีดำ น้ำตาล ขาว เขียว
ด้านหน้าเป็นพระประธานแสดงปางลีลา ล้อมรอบด้วยอักขระอ่านว่า “นะ มะ พะ ทะ” ด้านหลังด้านบนมีอักขระอ่านว่า “มะ อะ อุ” ตอนกลางมีพระประทับนั่ง ๓ องค์ ปางสมาธิ ปางมารวิชัย และปางนั่งพนมมือ ถัดมามีอักขระอ่านว่า “นะ ปะ ทะ อะ ระ หัง” ล่างสุดเป็นรูปสิงห์ป้อนเหยื่อให้เสือ อันเป็นที่มาของฉายา "สิงห์ป้อนเหยื่อ"
พุทธคุณ เจริญรุ่งเรือง เมตตามหานิยม แคล้วคลาด คงกระพันชาตรี แม้ราชสีห์ที่ว่าโหดร้าย ยังศิโรราบต่อเมตตาธรรม ยอมป้อนเหยื่อให้กับเสือที่เป็นศัตรูกัน จึงนับว่าเป็นที่แสวงหาของนักนิยมพระเครื่องเป็นอย่างมาก
ซึ่งท่าน จอมพล ป.พิบูลสงคราม ยังนำพระสิงค์ป้อนเหยื่อ มาบรรจุตลับทองฝังเพชรและอาราธนาติดตัวตลอด และในสมัยก่อนนั้นเหล่าบรรดานายทหารต่างแขวนขึ้นคอกันแทบทั้งนั้น รวมทั้งสั่งให้ลูกน้องเสาะหามาแขวนห้อยติดตัวไว้ เช่นเดียวกับพระร่วงหลังรางปืน
และน่าจะเป็นเหตุผลนี้นี่เอง จึงทำให้พระพิมพ์กรุบางระกำหลุดเข้าสู่สนามพระน้อยเต็มที จนแทบจะกลายเป็นตำนานหนึ่งของพระเครื่องเมืองไทย.
ราคาปัจจุบัน
38,000
จำนวนผู้เข้าชม
54 ครั้ง
สถานะ
ยังอยู่
โดย
varavet
ชื่อร้าน
วาสนา พระเครื่อง
URL
http://www.varavet.99wat.com
เบอร์โทรศัพท์
0894611699
ID LINE
0894611699
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
2. ธนาคารไทยพาณิชย์ / 845-2-12340-2
กำลังโหลดข้อมูล
หน้าแรกลงพระฟรี